เรียนดำน้ำปลอดภัยได้อย่างไร? กฎและเทคนิคสำคัญที่ต้องรู้
A propos de moi
การดำน้ำเป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้คุณได้สำรวจโลกใต้น้ำอันงดงามและน่าทึ่ง แต่การดำน้ำก็มีความเสี่ยงเช่นกัน หากไม่ได้รับการฝึกฝนหรือปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยอย่างเหมาะสม การดำน้ำที่ปลอดภัยนั้นขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามหลักการพื้นฐานและเทคนิคที่สำคัญ ซึ่งผู้เรียนดำน้ำทุกคนควรรู้จักและนำไปปฏิบัติ บทความนี้จะอธิบายกฎและเทคนิคสำคัญที่ต้องรู้เพื่อการดำน้ำที่ปลอดภัย
1. การเรียนรู้และปฏิบัติตามมาตรฐานดำน้ำ การเรียนดำน้ำจากสถาบันที่ได้รับการรับรอง เช่น PADI หรือ SSI เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการสร้างความปลอดภัย เพราะการเรียนจากผู้สอนที่มีคุณภาพจะช่วยให้คุณเข้าใจทฤษฎีและฝึกทักษะได้อย่างถูกต้อง มาตรฐานที่คุณจะได้เรียนรู้มีหลากหลาย เช่น
-การใช้อุปกรณ์อย่างถูกต้อง: การสวมใส่อุปกรณ์ เช่น หน้ากาก, Regulator, และเครื่องช่วยลอยตัว (BCD) อย่างถูกต้องเป็นพื้นฐานที่สำคัญ
-การวางแผนการดำน้ำ: การวางแผนล่วงหน้าเกี่ยวกับลึกที่ดำน้ำ, ระยะเวลาในการดำน้ำ, และปริมาณอากาศที่เหลืออยู่ในถัง จะช่วยลดความเสี่ยงจากสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
2. กฎการดำน้ำเป็นคู่ (Buddy System) การดำน้ำแบบ Buddy System คือการดำน้ำเป็นคู่ โดยที่คุณและคู่ดำน้ำต้องช่วยเหลือกัน การดำน้ำแบบนี้ทำให้คุณมีคนช่วยเหลือเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน และเป็นการเพิ่มความปลอดภัยอย่างมาก กฎนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงในการดำน้ำเท่านั้น แต่ยังทำให้คุณสามารถตรวจสอบและช่วยเหลือกันในกรณีที่อุปกรณ์มีปัญหา เช่น Regulator รั่ว หรือการช่วยเพื่อนที่อาจเจอปัญหาใต้น้ำ เช่นการหลงทิศทาง
การใช้สัญญาณมือในการสื่อสารเป็นทักษะสำคัญที่ต้องฝึกฝนกับคู่ดำน้ำ เช่น
-การส่งสัญญาณว่าอากาศใกล้หมด
-การสื่อสารว่าต้องการขึ้นสู่ผิวน้ำ
การแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น หน้ากากมีปัญหา หรือรู้สึกไม่สบาย
3. การควบคุมการลอยตัวและความลึก การควบคุมการลอยตัวหรือที่เรียกว่า Buoyancy Control เป็นทักษะที่สำคัญในการดำน้ำ เพราะการลอยตัวที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้คุณหลงทิศทาง, ชนปะการังหรือวัตถุใต้น้ำ หรือสูญเสียพลังงานมากเกินไป เทคนิคพื้นฐานสำหรับการควบคุมการลอยตัวได้แก่:
-การใช้ BCD (Buoyancy Control Device) เพื่อเพิ่มหรือลดปริมาณลมที่ช่วยควบคุมการลอยตัว
-การควบคุมการหายใจ: หายใจเข้าลึกและยาวช่วยให้คุณลอยตัวสูงขึ้น ขณะที่การหายใจออกช้า ๆ จะช่วยให้คุณจมลง
-การปรับสมดุลน้ำหนักให้เหมาะสม: การมีน้ำหนักที่มากเกินไปจะทำให้คุณจมเร็วเกินไป ในขณะที่น้ำหนักน้อยเกินไปจะทำให้คุณลอยตัวตลอดเวลา
การฝึกควบคุมการลอยตัวจนชำนาญเป็นวิธีหนึ่งในการดำน้ำอย่างปลอดภัย เพราะช่วยลดการใช้พลังงาน ทำให้คุณสามารถดำน้ำได้นานขึ้นและป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อสภาพแวดล้อมใต้ทะเล
4. การคำนวณปริมาณอากาศและการดำน้ำอย่างปลอดภัย การติดตามปริมาณอากาศในถังเป็นสิ่งที่สำคัญมาก คุณต้องคำนวณให้แน่ใจว่าอากาศเพียงพอสำหรับการดำน้ำและการขึ้นสู่ผิวน้ำอย่างปลอดภัย เทคนิคในการจัดการปริมาณอากาศรวมถึง:
-การตรวจสอบเกจอากาศบ่อยๆ: ควรตรวจสอบเกจอากาศทุก ๆ 5-10 นาทีเพื่อตรวจดูปริมาณอากาศที่เหลืออยู่
-กฎ 1/3 ของอากาศ: แบ่งปริมาณอากาศเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกใช้สำหรับการลง ส่วนที่สองสำหรับการขึ้น และอีกส่วนสำหรับเหตุฉุกเฉิน
-การประเมินเวลาใต้น้ำ: ก่อนการดำน้ำ ควรประเมินว่าปริมาณอากาศที่มีจะสามารถดำน้ำได้กี่นาที และควรดำน้ำตามแผนที่วางไว้ การวางแผนเรื่องอากาศล่วงหน้าและคำนึงถึงสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการหมดอากาศใต้น้ำ
5. การหลีกเลี่ยงโรคน้ำลึก (Decompression Sickness) การดำน้ำลึกเกินไปและขึ้นสู่ผิวน้ำเร็วเกินไปอาจทำให้เกิด โรคน้ำลึก หรือ Decompression Sickness ซึ่งเกิดจากการที่ก๊าซไนโตรเจนในร่างกายขยายตัวอย่างรวดเร็วและสร้างฟองก๊าซในเลือด สิ่งที่คุณต้องทำเพื่อหลีกเลี่ยงโรคน้ำลึกได้แก่:
-ปฏิบัติตามกฎการขึ้นช้าๆ: ห้ามขึ้นสู่ผิวน้ำเร็วกว่าความเร็วที่กำหนด ปกติจะไม่เกิน 18 เมตรต่อนาที
-การหยุดนิ่ง (Safety Stop): การหยุดพักที่ระดับลึกประมาณ 3-5 เมตรเป็นเวลา 3-5 นาทีช่วยให้ร่างกายขจัดก๊าซไนโตรเจนส่วนเกินได้
-การใช้นาฬิกาและคอมพิวเตอร์ดำน้ำ: อุปกรณ์นี้ช่วยคำนวณเวลาที่คุณสามารถดำน้ำและขึ้นสู่ผิวน้ำได้อย่างปลอดภัย รวมถึงคำนวณเวลาสำหรับหยุดนิ่งเมื่อจำเป็น
6. การสื่อสารและการแก้ไขปัญหาใต้น้ำ การสื่อสารใต้น้ำจำเป็นต้องใช้สัญญาณมือ เพราะคุณไม่สามารถพูดได้ การฝึกฝนการใช้สัญญาณมือทำให้คุณสามารถสื่อสารกับคู่ดำน้ำหรือครูสอนดำน้ำได้อย่างชัดเจนเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน การแก้ไขปัญหาใต้น้ำ เช่น การถอดและใส่หน้ากากใหม่ หรือ การแก้ไขปัญหา Regulator เป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝนเพื่อเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นใต้น้ำได้
7. การรักษาสุขภาพและความพร้อมทางร่างกาย การดำน้ำต้องการความพร้อมของร่างกายและจิตใจ การตรวจสุขภาพก่อนดำน้ำจึงเป็นเรื่องสำคัญ ผู้ที่มีภาวะสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคหัวใจ หรือปัญหาทางเดินหายใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะเรียนดำน้ำ การพักผ่อนให้เพียงพอและดื่มน้ำให้มากพอช่วยป้องกันการเกิดปัญหาจากความเหนื่อยล้าหรือภาวะขาดน้ำระหว่างการดำน้ำ
8. การปฏิบัติตามกฎและคำแนะนำของครูสอนดำน้ำ สุดท้าย การปฏิบัติตามคำแนะนำและกฎระเบียบที่ครูสอนดำน้ำแนะนำเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ครูสอนดำน้ำมีประสบการณ์และความรู้ในการดำน้ำในสภาพแวดล้อมต่างๆ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากสถานการณ์ที่อาจเป็นอันตราย
การดำน้ำอย่างปลอดภัยขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามกฎและเทคนิคสำคัญ เช่น การเรียนรู้และปฏิบัติตามมาตรฐานการดำน้ำ, การใช้อุปกรณ์อย่างถูกต้อง, การควบคุมการลอยตัว, การคำนวณปริมาณอากาศ, การปฏิบัติตามกฎการขึ้นจากน้ำ เป็นต้น